หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนังสือเดินทางและเอกสารต่างๆ ของผม ระหว่างทางกลับบ้านก็คิดให้กำลังใจตัวเอง “เอาว่ะ ก็มันหายแล้ว อย่างไงก็ต้องเดินทางต่อ อย่างมากก็แค่ทำใหม่ มันคงไม่ยากอะไรที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง ก็เคยผ่านมันมาแล้วนิ ไม่แปลกที่จะนับ 0 อีกครั้ง ล้มได้ก็ลุกได้” คิดได้อย่างนั้นก็เรียกสติสตางค์กลับมาได้บ้างครับ ที่ท้อขนาดว่าจะไม่ไปญี่ปุ่นก็เลิกไป มาถึงขนาดนี้แล้ว อย่างไงก็ต้องไปให้ได้ครับ เดี๋ยวไม่มีอะไรมาเขียนให้ทุกคนอ่าน ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงลุ้นกับผมอยู่เหมือนกัน กับแค่อุปสรรคแค่นี้ เด็กๆ ครับ ลุ้นมากกว่านี้เราก็เคยผ่านมาแล้วไม่ใช่เหรอ (เรื่องแรกของผมไง กลับไปอ่านซะ)
กลับมาถึงบ้านสิ่งที่ผมต้องตกตะลึงก็คือ ซองจดหมายจากไปรษณีย์ที่จ่าหน้าถึงผม ส่งโดยไปรษณีย์เองเนื่องจากว่าไม่มีการติดแสตมป์ ผมรีบเปิดออกดู ไม่น่าเชื่อครับท่านผู้ชม เอกสารตัวจริงผมทั้งหมดที่ส่งไปอยู่ในซองนั้นทั้งหมด หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร ไม่มีจดหมายอะไรบอกผมทั้งสิ้น หน้าซองเขียนไว้ว่า “คืนบัตรจากการไขตู้” งงไหมครับ อย่าว่าแต่คุณเลย ผมถึงกับอึ้งกิมกี่ไปนาน ใจนึงก็ดีใจคับที่ได้เอกสารกลับคืนมา แต่ความสงสัยในฐานะโคนันน้อยก็เกิดขึ้น “ทำไมเอกสารผมถึงแยกไป 2 ที่ ทั้งๆ ที่ส่งในซองเดียวกัน” “มีคนเปิดซองเอกสารลงทะเบียนผมหรือ” จริงๆ แล้วถ้าไปรษณีย์เปิดเอกสารผม ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะว่าเค้าก็คงมีสิทธิที่จะตรวจสอบซองที่ต้องสงสัย แต่ที่ผมงงก็คือ ตรวจแล้วทำไมไม่ใส่เข้าไปในซองเดิมแล้วส่งให้กับผู้รับ แต่กลับส่งกลับมาที่ผู้ส่งทำไม ผมคงต้องสอบถามหาความจริงเพื่อหายข้อสงสัยในเร็ววันนี้ครับ
ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น